Q&A

โปรแกรมลดน้ำหนักเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิวัติความอ้วนที่ดี เพียงเราปฏิบัติตามโปรแกรมอย่างมีวินัยก็จะทำให้เราเรียนรู้การปรับพฤกติกรรมที่นำไปสู่การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนต่อไป  อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนต้องอาศัยเวลา แรงใจ เพื่อปรับพฤกติกรรมในการกิน และต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ การลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดีควรลดประมาณสัปดาห์ละ 0.5 – 1.0 กิโลกรัม รวมถึงการได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน เรียกว่า ลดแต่พลังงาน  แต่ไม่ลดปริมาณสารอาหารนั่นเอง

การออกกำลังกายเป็นการทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง และวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้องและได้ผลที่ยั่งยืนที่สุดอยู่บนพื้นฐานง่ายๆ คือ การขยับออกแรงเคลื่อนไหวร่างกายให้ใช้พลังงานมากกว่าพลังงานที่ได้รับจากอาหาร แต่ร่างกายยังได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่อดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง  การทานอาหารและสารอาหารให้ครบถ้วนทุกมื้ออาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ

หลักการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยและต่อเนื่องต้องอาศัยการควบคุมอาหารร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และแบบเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย โดยทั่วไปเมื่อลดน้ำหนักมาสักระยะหนึ่ง ร่างกายจะปรับระบบการเผาผลาญให้ต่ำลง หากไม่ออกกำลังกายจะทำให้น้ำหนักคงที่เร็ว ไม่สามารถลดน้ำหนักลงไปได้อีก หรือในบางคนหากเผลอกินมากขึ้นจะทำให้เกิดโยโย่ เอ็ฟเฟ็คท์ได้ง่าย

ในการลดน้ำหนักควรลดปริมาณอาหาร แต่ยังต้องได้รับวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารจากพืช รวมถึงโปรตีนคุณภาพอย่างครบถ้วนจะทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีสุขภาพดี

การใช้สารอาหารตัวช่วยร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปรับพฤกติกรรมเพื่อลดน้ำหนัก จะช่วยให้การทำตามโปรแกรมง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารจะช่วยให้สามารถควบคุมพลังงานได้ง่ายขึ้นและได้รับสารอาหารครบถ้วน สารสกัดจากถั่วขาวและถั่วเหลืองหมักช่วยยับยั้งการดูดซึมแป้งและน้ำตาล จึงช่วยลดพลังงานในกรณีที่กินคาร์โบไฮเดรตเกินความจำเป็น รวมถึงสารสกัดซีแอลเอจากน้ำมันดอกคำฝอยที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ตัวสารสกัดจากชาเขียวเพื่อเพิ่มการเผาผลาญและช่วยลดพุง ลดรอบเอว ทำให้รูปร่างสมส่วนได้ดังใจ

กรณีนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอระหว่างโปรแกรม ในช่วงแรกของการปรับพฤกติกรรมให้พยายามหลีกเลี่ยงการสังสรรค์หรือสิ่งเร้าต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้พยายามควบคุมปริมาณอาหารและเลือกชนิดอาหารที่ให้พลังงานต่ำและออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้นเพื่อเผาผลาญส่วนที่กินเกินจากโปรแกรม หรือใช้สารสกัดจากถั่วขาวและถั่วเหลืองหมักช่วยยับยั้งการดูดซึมแป้งและน้ำตาล เช่น หากเผลอดื่มกาแฟเย็น 1 แก้ว ก็ควรว่ายน้ำ 1 ชั่วโมงเป็นการชดเชย หรือใช้สารสกัดจากถั่วขาวและถั่วเหลืองหมักช่วยยับยั้งการดูดซึมแป้งและน้ำตาล บล็อกไว้ก่อนกิน เป็นต้น

ถ้าคุณแม่เป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญและตั้งเป้าเอาไว้ว่าการให้นมลูกจะช่วยให้คุณแม่กลับมามีหุ่นที่สวยได้เหมือนเดิมละก็ คุณแม่ต้องใช้เวลานะคะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป การที่น้ำหนักลดมากเกินไปในแต่ละสัปดาห์นั้น เป็นเรื่องที่อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ ดังนั้น น้ำหนักที่ดีก็คือ 0.5 กิโลกรัมในหนึ่งสัปดาห์ เพราะการลดเช่นนี้นอกจากจะไม่ส่งผลต่อตัวคุณแม่เองแล้วยังไม่ส่งผลเสียกับร่างกายของลูกอีกด้วย แต่โปรแกรมของเราเน้นปริมาณสารอารที่จำเป็นได้อย่างเพียงพอ สามารถใช้เป็นโปรแกรมลดน้ำหนักควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกันให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อย

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเรื่องน้ำหนัก กล้าม และไขมันก่อนนะคะ การลดน้ำหนักส่วนมากจะเน้นน้ำหนักบนตาชั่ง แต่การลดไขมันจะเน้นที่การปริมาณไขมันในร่างกาย โดยดูจากสัดส่วนที่เปลี่ยนไป เช่น รอบเอว รอบสะโพก ต้นแขน ต้นขา ที่ดูเกลง กระชับมากขึ้น ดังนั้น การที่โปรแกรมของเรา มุ่งเน้นที่การฟื้นฟู สร้างเสริมกล้ามเนื้อการออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักที่ไม่ยอมลด หรือบางคนน้ำหนักขึ้น อาจเป็นเพราะมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นค่ะ ลองใช้สายวัด วัดสัดส่วนของร่างกายดูค่ะ ถ้าสัดส่วนลด แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้วค่ะ

การฟื้นฟูระบบการเผาผลาญ จริงๆ ควรใช้คำว่าลดความอ้วน หรือลดไขมันในร่างกาย จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลมากกว่าค่ะ ในช่วงการเข้าโปรแกรมช่วงแรก บางท่านเห็นผลได้ไว แต่บางท่านไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ค่ะ ทั้งสัดส่วนและน้ำหนักจะนิ่งๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลประมาณ 2-3 เดือนขึ้นไปค่ะ เพราะฉะนั้น “อย่าใจร้อน” นะคะ

ทานได้ค่ะ แต่ให้เน้นที่โปรตีนเพื่อซ่อมแซมและเสริมมร้างกล้ามเนื้อ  ควรทานแค่พออิ่ม งดของมัน ของหวาน ของทอด

หลายคนมักจะไม่มีเวลาออกกำลังกายจริงๆ หรือไม่สามารถออกกังกายได้จริงๆ ดังนั้นต้องควบคุมอาหาร ปริมาณสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย เป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการออกกำลังกายค่ะ ดังที่บอกไว้ว่า โภชนาการ 70% ช่วยดูแลสุขภาพได้ ที่เหลืออีก 30% คือการออกกำลังกาย ดังนั้น ไม่ต้องกังวลค่ะ เลือกทานอาหารที่ดี เลี่ยงของหวาน ของทอด ทานอาหารที่มีประโยชน์แค่พออิ่ม ไม่ควรทานต่ำกว่า BMR (พลังงานที่จำเป็นพื้นฐานในการมีชีวิต) และไม่ควรเกินค่าพลังงานที่คุณต้องใช้ในแต่ละวันนะคะ